วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การละเล่นพื้นบ้านของภาคใต้


เป็นการละเล่นของภาคใต้  จังหวัด กระบี่

 


วิธีการเล่น

ผู้เล่นตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้เล่นก่อนหลัง โดยผู้เล่นมีลูกเกยคนละลูก หลังจากนั้นก็ขีดตารางเป็นช่องสี่เหลี่ยมจำนวน 6 ช่อง หรือเรียกว่า 6 เมือง โดยแบ่งเป็นซีกซ้าย 3 เมือง ซีกขวา 3 เมือง

การเริ่มเล่น

ผู้เล่นคนที่ 1 เริ่มเล่นโดยการทอยลูกเกยลงไปในเขตเมืองที่ 1 แล้วกระโดดยืนเท้าเดียวในเมืองที่ 1 หลังจากนั้นใช้ปลายเท้าฉุดลูกเกยให้ผ่านไปในเขตเมืองที่ 2 3 4 5 6 ตามลำดับแล้วก็ฉุดลูกเกยออกจากเขตเมืองที่ 6 ต่อไปผู้เล่นคนเดิม ต้องทอยลูกเกยลงในเมืองที่ 2 แล้วกระโดดยืนเท้าเดียวในเมืองที่ 1 กระโดดต่อไปในเมืองที่ 2

หลังจากนั้นก็เล่นเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ ทุกเมือง จนถึงเมืองที่ 6 เมื่อทอยลูกเกยและฉุดได้ครบทั้ง 6 เมืองแล้วให้ผู้เล่นกระโดดด้วยเท้าข้างเดียวจังหวะเดียวลงบนเมืองที่ 1 ถึง เมืองที่ 6 ตามลำดับ ห้ามกระโดดหลายครั้งมิฉะนั้นถือว่า ตาย ต้องให้คนอื่น ๆ เล่นต่อ ถ้าเล่นครบท่านี้แล้วไม่ตาย ให้เล่นในท่าต่อไป คือ เอาลูกเกยวางบนหลังเท้าแล้วสาวเท้าลงในเมืองทั้ง 6 เมือง ตามลำดับ แต่เท้าหนึ่งลงในเมืองหนึ่งได้เพียงครั้งเดียว เช่น เท้าซ้ายเหยียบลงในเมืองที่ 1 เท้าขวาเหยียบลงในเมืองที่ 2 เท้าซ้ายเหยียบลงในเมืองที่ 3 สลับกันไปเช่นนี้จนกว่าจะครบทุกเมือง ลูกเกยนั้นต้องไม่ตกจากหลังเท้าและเท้านั้นต้องไม่เหยียบเส้น ท่าต่อไปนั้นให้ผู้เล่นปิดตา เดินที่ละก้าวโดยไม่ต้องวางลูกเกยบนหลังเท้าขณะเดินขณะที่ก้าวเท้าลงในแต่ละเมืองผู้เล่นนั้นต้องถามว่า "อู่ บอ" หมายความว่า เหยียบเส้นหรือไม่ ถ้าไม่เหยียบผู้เล่นคนอื่น ๆ จะตอบว่า "บอ" ถ้าเหยียบเส้นตอบว่า "อู่" เมื่อผู้เล่นที่ปิดตาเหยียบเส้นถือว่า ตาย ต้องเปลี่ยนให้คนอื่น ๆ เล่นต่อไป

ถ้าเล่นยังไม่ตายผู้เล่นนั้นมีสิทธิ์ในการจองเมือง โดยผู้เล่นนั้นต้องเดินเฉียงไปแบบสลับฟันปลาไปตามช่องต่าง ๆ ให้ลงเท้าได้เพียงเท้าเดียว เช่น ลงเท้าซ้ายในเมืองที่ ๑ ลงเท้าขวาในเมือ งที่ ๓ และลงเท้าซ้ายในเมืองที่ ๕ แล้วกระโดดสองเท้าลงในหัวกระโหลก กระโดดเท้าพร้อมกับหันหลัง และผู้เล่นก็โยนลูกเกยข้ามศีรษะของตน
เองถ้าลูกเกยไปตกอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่ง เมืองนั้นจะเป็นของผู้เล่นทันที ดังนั้นผู้เล่นมีสิทธิ์ยืนสองเท้าในเมืองนั้นได้ เมื่อได้เมืองแล้วก็ให้เล่นอย่างนั้นต่อไป จนกว่าจะตายจึงจะต้องเปลี่ยนให้ผู้อื่นเล่นต่อ



โอกาสหรือเวลาที่เล่น

ในการเล่นอีฉุดนั้นไม่มีการกำหนดโอกาสและเวลาที่เล่น เพราะสามารถเล่นได้ในทุกโอกาสและการเล่นอีฉุดนั้นเป็นการเล่นของเด็กที่นิยม กันมากในท้องถิ่นจังหวัดกระบี่


คุณค่าและแนวคิด

ในการเล่นอีฉุดนั้นก่อให้เกิดความสามัคคี ความรักความผูกพันธ์กันในหมู่คณะและเป็นการฝึกความสัมพันธ์ของร่างกายในส่วน ต่าง ๆ ทั้ง มือ เท้า และสมอง ได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลโดย www.baanmaha.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น